ขายทาวน์เฮ้าส์ ภูเก็ตวิลล่า โครงการน่าอยู่ เคล็ดวิธี ช่วยขายทาว์นเฮ้าส์ออกง่ายในขณะนี้
ขายทาวน์เฮ้าส์ ภูเก็ตวิลล่า โครงการน่าอยู่ สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือคนที่ต้องการจะขายอสังหาริมทรัพย์ บางทีก็อาจจะจำเป็นต้องทำใจในเดี๋ยวนี้ เพราะว่าตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด-19 ก็ยิ่งทำให้อสังหาริมทรัพย์ขายออกไม่ง่ายนัก ด้วยเหตุว่าคนจำนวนมากหันมาระแวดระวังการใช้จ่ายเยอะขึ้น
ด้วยเหตุนั้นถ้าเกิดคิดจะขายบ้านเดี่ยว ขายทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม ขายคอนโด หรือขายที่ดิน จำเป็นมากอย่างยิ่งที่จะจะต้องทราบเคล็ดลับกลุ่มนี้ ที่สามารถจะช่วยให้อสังหาริมทรัพย์ที่ครอบครองอยู่ในมือนั้นขายออกง่ายดายมากยิ่งขึ้น
1. กำหนดราคาให้สมควร
ราคานับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม คอนโด หรือที่ดิน ขายออกได้อย่างเร็ว เพราะฉะนั้นการกำหนดราคาขายก็เลยออกจะสำคัญ รวมทั้งถูกกล่าวถึงขึ้นมาเป็นข้อแรก การกำหนดราคาขายจำเป็นต้องมองหลายสาเหตุ

ไม่ว่าจะเป็นราคาประเมินจากกรมธนารักษ์ ราคาประเมินจากองค์กรอิสระหรือสถาบันด้านการเงิน รวมทั้งราคาท้องตลาดหรือราคาจำหน่ายจริงบนทำเลที่ตั้งนั้นๆ
ในตอนนี้มีข้อควรพิจารณา ถ้าเกิดต้องการฟันผลกำไรด้วยการกำหนดราคาขายสูงๆบางครั้งอาจจะไม่เหมาะสมนัก และก็บางทีอาจไม่เป็นที่พึงพอใจ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ทรงตัว การใช้จ่ายหรือซื้ออะไรที่ราคาแพงเกินความสามารถก็เลยเป็นได้ยาก อีกอย่างราคาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดก็มิได้อยู่ในชั้นสูงเท่าไรนัก เพื่อขายออก
2. ทำผลิตภัณฑ์ให้น่าดึงดูด
หากแม้คนโดยมากจะคิดมากกว่าเดิม กว่าจะควักเงินในกระเป๋าแต่ละบาทออกมาจากกระเป๋า ซื้อวิลล่า ภูเก็ต แต่ว่าก็ยังเจอสัญญาณที่ดี คนที่อยากซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นหาผ่านวิถีทางออนไลน์ จากข้อมูลของดีดีพร็อพเพอร์ตี้

ที่ได้กระทำการเก็บรวบรวมการกระทำการเข้าชมจากเว็บ DDproperty.com พบว่า ปริมาณการเข้าชมแล้วก็ทำค้นหาต่อบนเว็บ เพิ่มสูงมากขึ้น จังหวัดกรุงเทพ มากขึ้น 2% จังหวัดนนทบุรี มากขึ้น 5% แล้วก็จังหวัดปทุมธานี มากขึ้น 5%
นับว่าเป็นช่องทางของคนที่ปรารถนาขาย แม้กระนั้นจะขายได้หรือเปล่า ส่วนใดส่วนหนึ่งจำต้องสร้างความน่าดึงดูดใจให้ผลิตภัณฑ์ เพิ่มค่าด้วยการปรับปรุงแก้ไขผลิตภัณฑ์ให้เกิดความงดงามเสมือนใหม่ ให้ความเอาใจใส่กับการเปลี่ยนแปลงบ้าน หรือคอนโดให้เหมาะสมกับการ Work From Home มากเพิ่มขึ้น
โดยอาจะเลือกใช้เครื่องเรือนที่มีความยืดหยุ่น และก็มีคุณประโยชน์ใช้สอยที่มากมาย นอกเหนือจากนี้ยังจะต้องใช้รูปภาพงามๆเย้ายวนใจความพึงพอใจ รวมทั้งให้ข้อมูลเนื้อหาที่ครบถ้วนสมบูรณ์
3. ลงประกาศขายที่อยู่ที่อาศัย
ตอนนี้มีหนทางสำหรับคนที่ต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ล้นหลาม อีกทั้งแบบที่จำต้องใช้เงินและก็แบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ในกรณีที่ผู้ครอบครองขายเองก็สามารถถ่ายภาพบ้านในมุมต่างๆที่ปรารถนาพรีเซนเทชั่น พร้อมด้วยจัดแจงข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญ

อย่างเช่น ทำเล ขนาดพื้นที่จำเป็นต้องตัวบ้าน ระบบสาธารณูปโภคในรอบๆใกล้เคียง รวมทั้งนำไปลงประกาศตามแหล่งต่างๆได้เลย พื้นที่สำหรับเพื่อการประกาศขายที่ต้องการชี้แนะมีดังนี้
- – เว็บค้าขายอสังหาริมทรัพย์ จุดเด่นก็คือ เว็บกลุ่มนี้มีการทำข้อมูลเพื่อล่อใจคนที่พึงพอใจจำหน่ายที่พักอาศัยให้เข้ามาโดยตลอด ช่องทางที่ลูกค้าจะได้มองเห็นบ้านหรือคอนโดที่ปรารถนาขายก็มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ
- – กรุ๊ปที่เกี่ยวพันกับอสังหาริมทรัพย์ใน Facebook อีกหนึ่งวิถีทางบนโลกอินเตอร์เน็ตยอดนิยมมากมาย สามารถโพสต์เพื่อประกาศขายที่พักที่อาศัย แต่ว่าจำต้องถามไถ่กฎข้อปฏิบัติของกรุ๊ปดังที่กล่าวถึงแล้วก่อนว่าอนุญาตหรือเปล่า
- – ปิดป้ายหน้าบ้านแล้วก็ในรอบๆใกล้เคียง แนวทางข้างต้นนับว่าเป็นกรรมวิธีการบนโลกอินเตอร์เน็ต แต่ว่าอีกหนึ่งแนวทางออฟไลน์ที่ไม่สมควรละเลยเป็นการต่อว่าดป้ายปิดประกาศ ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางให้กับผู้พอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านใกล้เรือนเคียงตนเองได้ แม้กระนั้นอย่าลืมทำป้ายที่มีข้อมูลการติดต่อแน่ชัดติดเอาไว้ด้วย
4. ตรวจเช็กค่าครองชีพที่คนขายจะต้องรับผิดชอบ
สำหรับเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ จะมีค่าใช้จ่ายที่คนซื้อและก็คนขายจำต้องตกลงกันว่าคนไหนกันแน่จะจ่ายส่วนใด ซึ่งแม้มีการตกลงให้เป็นระเบียบก่อนขาย ก็สามารถที่จะช่วยให้แนวทางการขายราบรื่น และก็เป็นระเบียบเรียบร้อยเพิ่มมากขึ้น ค่าใช้สอยจำนวนมากมีดังนี้

- – ค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน คิดเป็น 2% ของราคาประเมินที่ดินรวมสิ่งก่อสร้าง โดยธรรมดาจะแบ่งจ่ายกันคนละ 1% ระหว่างคนซื้อกับคนขาย หรือในเรื่องที่คนขายเป็นบุคคลปกติ มิได้ลดบ้านให้ แม้กระนั้นคนขายมีข้อแนะนำเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมโอนบ้านทั้งผอง หรือกรณีอื่นๆตามข้อตกลงกันระหว่างคนซื้อแล้วก็คนขาย
- – ค่าภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ โดยปกติเป็นรายจ่ายของคนขาย คิดเป็น 3.3% ของราคาจำหน่าย ดังนี้คนขายจำเป็นต้องถือครองบ้านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี แม้กระนั้นแม้ถือครองมากยิ่งกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือมีชื่ออยู่ในใบสำมะโนครัวเกิน 1 ปี ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ แต่ว่าคนขายจำต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์แทน
- – ค่าอากรแสตมป์ โดยปกติเป็นรายจ่ายของคนขาย คิดเป็น 0.5% ของราคาจำหน่าย villas Phuket แม้กระนั้นจำเป็นต้องไม่น้อยกว่าราคาประเมินที่ดิน ถ้าเกิดต่ำยิ่งกว่า ให้ใช้ราคาประเมินที่ดินมาคำนวณ แม้กระนั้นในเรื่องที่คนขายอยู่ในข่ายจำเป็นต้องจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์
- – ค่าภาษีอากรรายได้บุคคลปกติ ในกรณีที่คนขายเป็นบุคคลปกติ คนขายจะต้องจ่ายค่าภาษีอากรนี้เพราะว่าเป็นผู้มีรายได้จากธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยน การคิดค่าภาษีอากรรายได้บุคคลปกติเป็นแบบอัตรารุ่งโรจน์หรือแบบขั้นบันได
รวมทั้งจำนวนเงินที่เสียภาษีอากรก็ขึ้นกับกระบวนการที่ได้มากับปริมาณปีที่ครอบครอง เป็นต้นว่า ถ้าหากได้มาด้วยการซื้อรวมทั้งครองนาน ก็จำเป็นจะต้องจ่ายค่าภาษีอากรโอนบ้านเยอะๆ ดังนี้ตรึกตรองจากราคาประเมินที่ดินรวมทั้งสิ่งก่อสร้างของกรมที่ดิน
5. ข้อตกลงจะต้องไม่พลาด คุ้มครองการเสียเปรียบ
สัญญาซื้อขายเป็นเอกสารที่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการค้าขายบ้าน ก็เลยจำเป็นต้องพิเคราะห์ทุกรายละเอียดอย่างระมัดระวัง ซึ่งคำสัญญาที่ดีก็ทำให้คนซื้อ รวมทั้งคนขายอุ่นใจด้วย โดยคำสัญญาที่ดีต้องมีข้อมูลสำคัญกลุ่มนี้

- – ขนาดรวมทั้งราคาซื้อขายแลกเปลี่ยน จะต้องพิจารณาให้มั่นใจว่า ขนาดที่ดิน พื้นที่บ้าน และก็ราคาในคำสัญญาจะซื้อจะขายนั้นเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ส่วนสัญญาซื้อขาย (ท.ด.13) ต้องมีการเช็คราคาซื้อขายแลกเปลี่ยนบ้านแล้วก็เลขที่โฉนดที่ดินในคำสัญญาให้ถูกด้วย
- – วันที่นัดหมายโอนกรรมสิทธิ์ ข้อตกลงจะซื้อจะขายต้องกำหนดวันที่นัดหมายโอนกรรมสิทธิ์ โดยจำเป็นต้องเผื่อเวลาในการยื่นขอสินเชื่อและก็ตรวจทานบ้านด้วย ถ้าข้อตกลงจะซื้อจะขายไม่มีทางนัดหมายโอนกรรมสิทธิ์ ข้อตกลงนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสัญญาซื้อขายที่เป็นโมฆะไปโดยปริยาย
- – การรับผิดถูกใจค่าใช้สอย การค้าขายบ้านจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆดังเช่นว่า ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์แล้วก็ภาษี ซึ่งบางทีอาจแปลงเป็นปัญหา ถ้าหากผู้บริโภคแล้วก็คนขายไม่ตกลงกันให้ดีว่าคนไหนจะเป็นผู้จะรับผิดชอบค่าใช้สอยส่วนไหน โดยเหตุนี้จำเป็นต้องเจาะจงในคำสัญญาจะซื้อจะขายให้กระจ่างแจ้ง
- – เบี้ยปรับเมื่อไม่ทำตามสัญญา ถ้าคนขายมีความช้าสำหรับเพื่อการมอบบ้านหรือขอยกเลิกโดยที่คนซื้อมิได้ทำผิดข้อตกลง คนซื้อมีสิทธิ์คิดเบี้ยปรับรายวันได้ในอัตราไม่น้อยกว่า 0.01% แต่ว่ารวมกันไม่เกิน 10% ของราคาซื้อขายแลกเปลี่ยน แล้วก็เบี้ยปรับควรจะเจาะจงเอาไว้ภายในข้อตกลงอย่างแจ่มแจ้ง
- – กติกาและก็ข้อตกลงอื่นๆทั้งยังคนขายแล้วก็ผู้บริโภคจำเป็นต้องตรวจทานให้มั่นใจว่าตัวเองจะได้รับความเที่ยงธรรมในคำสัญญาทุกๆข้อ เป็นต้นว่า การยกเลิกคำสัญญา การคืนเงินมัดจำ รวมทั้งการยืนยันบ้าน ส่วนสัญญาซื้อขายจะเจาะจงเงื่อนเพิ่มอีกในส่วนท้ายของข้อตกลง บ้านและสวน โปรดอ่านให้ครบสมบูรณ์ก่อนเซ็นสัญญาด้วยกัน
ทาวน์เฮ้าส์กับทาวน์โฮมไม่เหมือนกันยังไง ?
ทาวน์เฮ้าส์เป็นบ้านจำพวกห้องแถว ตึกแถว ที่อยู่ชิดกันใช้ฝาผนังแล้วก็รั้วด้วยกัน และก็ทาวน์โฮมก็เป็นอย่างนั้นด้วยเหมือนกัน อ้าว! แล้วทั้งสองประเภทนี้แตกต่างเช่นไร แบบไหนเรียกทาวน์โฮม รวมทั้งแบบไหนเรียกทาวน์เฮาส์ พวกเรามาหาคำตอบในเนื้อหานี้กันจ้ะ
ทาวน์เฮ้าส์เป็นยังไง
ทาวน์เฮาส์หมายถึงคำที่เรียกบ้านชนิดห้องแถว เรือนแถว มักมีหน้าตาคล้ายคลึงกัน อยู่ชิดกัน ใช้ฝาผนังด้วยกัน จำนวนมากจะสูงไม่เกิน 2 ชั้น เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ให้ความรู้ความเข้าใจสึกอบอุ่นในพื้นที่ขนาดพอดิบพอดี
โดยธรรมดาแล้วทาวน์เฮ้าส์จะแพงเบาๆอย่างไรก็แล้วแต่ชอบไม่มีศูนย์กลางหรืออุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกจากทางแผนการ
ทาวน์โฮมเป็นยังไง
ทาวน์โฮมหมายถึงทาวน์เฮ้าส์อัปเกรด ด้วยแบบกับออกแบบที่ล้ำสมัย มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการวางแผนผังบ้านเหมือนบ้านเดี่ยว ส่วนใหญ่จะมีขนาด2-3 ชั้นขึ้นไป
ทาวน์โฮมที่อยู่ในโครงงานโดยมากจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบถ้วนเสมือนอยู่บ้านเดี่ยวเลยคะ เป็นต้นว่า สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือพื้นที่ศูนย์กลาง ฯลฯ
ฉะนั้น โครงงานต่างๆในตอนนี้ ก็เลยนิยมเรียกทาวน์โฮมด้วยเหตุว่าให้ความรู้ความเข้าใจสึกถึงที่บ้าน มีความเลิศหรู และก็สามารถเพิ่มราคาขายได้ด้วย ซึ่งอันที่จริงแล้วพึ่งจะใช้กันอย่างล้นหลามไม่กี่ปีให้หลังมานี้เองจ้ะ แม้กระนั้นไม่ว่าจะเรียกทาวน์เฮ้าส์หรือทาวน์โฮม
เมื่อกำหนดลงในหนังสือราชการก็จะเรียกทาวน์เฮ้าส์ทั้งปวง ซึ่งก็คือตึกที่ก่อสร้างต่อเนื่องกันเป็นแนวยาวตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป มีการใช้ฝาผนังแล้วก็รั้วด้วยกัน มีฝาผนังแบ่งตึกเป็นคูหาและก็มีสิ่งของทนนี่เอง