บ้านไม้สไตล์รีสอร์ท
บ้านไม้สไตล์รีสอร์ท สำหรับคนที่เติบโตกลางบริบทชนบทและธรรมชาติ ในความทรงจำอาจมีต้นไม้ที่จะมีบ้านนกห้อยระโยงระยางอยู่ในนั้น ความน่ารักที่ยังตรึงใจเหล่านี้ในวันหนึ่งก็กลายมาเป็นรูปเป็นร่างในงานสถาปัตยกรรมได้ เหมือนรีสอร์ทที่ออกแบบโดย Alexis Dornier มีชื่อโครงการว่า ‘Bird Houses’ ตั้งอยู่ในป่าเขตร้อนในใจกลางของบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ทีมงานออกแบบพยายามนำเสนอความรู้สึกผ่อนคลายและความกลมกลืนระหว่างทุ่งนา ป่าไม้ และตัวอาคารที่ทำจากไม้แต่มีส่วนฐานล่างเล็กกว่าด้านบน ทำให้อาคารเหมือนลอยตัวอยู่ ซึ่งส่วนหนึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านนก แต่ถูกปรับประยุกต์ให้เป็น ‘บ้านนกสำหรับคน’
บ้านไม้สไตล์รีสอร์ทโมเดิร์นทรอปิคอล
โปรเจ็กต์นี้เป็นรีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล เริ่มต้นโดยกลุ่มผองเพื่อน 3 คนที่มาผนึกกำลังสร้างความฝันของกลุ่มอาคารแบบลอยตัว ที่ล้อมรอบด้วยป่าเขตร้อนใจกลางเกาะบาหลี ในนี้ประกอบด้วยอาคารหลัก ๆ 3 หลัง ที่มีโครงสร้างเสารองรับตัวบ้านอยู่ตรงกลาง มองดูไกล ๆ เหมือนเป็นเสาสามต้นขนาดใหญ่ รายล้อมวงเวียนที่อยู่ตรงกลาง สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ นอกจากสวนแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้รวมและพื้นที่อาบแดดรองรับกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายบ้านจัดสรร
ชุดขององค์ประกอบเชิงพื้นที่และไฮไลท์ของโครงการในใจกลาง ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและมีความลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นทางเดิน แอ่งน้ำ และแปลงดอกไม้ที่มีรูปร่างแบบออร์แกนิคส์โค้งคดเคี้ยวไปทั่วแปลง ชวนให้นึกถึงความต่อเนื่องกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ช่วยเพิ่มบรรยากาศแบบโอเอซิสบนความเงียบสงบในเขตร้อนชื้น ลำดับของทางเดินและแปลงดอกไม้ที่ติดตามไปด้วยกัน เอื้อต่อการบูรณาการโครงการเข้ากับภูมิทัศน์โดยรอบได้อย่างน่ามอง
Alexis Dornier ได้ออกแบบโครงสร้างบ้านสามแบบที่ดูเหมือนจะลอยอยู่เหนือพื้นดินเล็กน้อย ด้วยเสาเพียง 1 ต้น ประกอบกับการเลือกใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก ๆ ทำให้ Birdhouses สัมผัสกับภูมิประเทศอย่างนุ่มนวลและเป็นหนึ่งเดียวกับทัศนียภาพ แค่เห็นครั้งแรกก็ตกหลุมรักได้ง่ายๆ โดยบ้านหลังใหญ่ที่สุดตั้งอยู่บนพื้นที่ลาดเอียงและให้วิวแบบไม่มีสิ่งกีดขวางไปยังลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านที่พัก โครงสร้างอีก 2 แห่งอยู่กระจายตัวตั้งแต่ทางเข้าล้อมวงเวียนอยู่ ซึ่งจะให้มุมมองของทิวทัศน์ที่ต่างกันทั้งหมด
เป้าหมายของประติมากรรมที่น่าอยู่เหล่านี้คือ การกระตุ้นความรู้สึกของการมีส่วนร่วมที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ผู้เข้าพักสามารถสังเกตธรรมชาติ เดินเล่นภายในพื้นที่ต่างๆ ที่มีลักษณะเหมือนเขาวงกตและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่ดำดิ่งลงไปในทิวทัศน์อันเขียวชอุ่ม พื้นที่ภายในใช้ระดับต่างๆ ทั่วทั้งโครงสร้าง เน้นความเปิดโปร่งโล่งทั้งแนวนอนและการไหลเวียนในแนวตั้งตรงกลาง
ห้องพักทุกห้องมีความสูงต่างกัน รอบ ๆ อาคารประกอบด้วยช่องเปิดที่ออกแบบมาอย่างปราณีต ไม่ว่าจะเป็นประตูหรือหน้าต่างมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ในขนาดตั้งแต่กะทัดรัดไปจนถึงแบบกว้าง ทิศทางต่างกันทำหน้าที่รับแสง ลม และเบลอขอบเขตภายในกับภายนอก แสดงวิวตั้งแต่ส่วนที่ติดบนพื้นไปจนถึงวิวท้องฟ้า ทำให้เลย์เอาต์มีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและเป็นกันเอง ทุกพื้นที่ใช้งานไม่ว่าจะเป็นโซนนั่งเล่น ครัว ห้องนอน หรือห้องน้ำ จะต้องรับความสดชื่นจากธรรมชาติไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ห้องนอนผนังไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อน ในแต่ละห้องมีดีไซน์ช่องแสงที่ต่างกันไป ตามแต่มุมมมองที่สอดคล้องกับภูิมทัศน์ภายนอก บางห้องมีภาพของทิวไม้และสวนสวยด้านข้างในบริบทที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ก็ใส่ผนังกระจกใสขนาดใหญ่ให้มองเห็นได้เต็มตา สำหรับห้องที่ไม่มีวิวในภาพกว้างๆ และต้องการความรู้สึกเป็นส่วนตัวสูง ก็เปลี่ยนมาเป็นห้องนอนที่มีผนังไม้ปิดบางส่วน เปิดบางส่วนให้เห็นมุมมองสูงขึ้นไปที่ปลายยอดไม้ มีช่องแสงสกายไลท์ให้เน้นไปที่วิวของท้องฟ้าแทนบ้านจัดสรร
ต้นไม้จำนวนมากในไซต์ที่รายล้อมสถาปัตยกรรม ทำให้ช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของเส้นสายเรขาคณิตตรงไปตรงมา และบางส่วนเป็นคอนกรีตที่ดูดิบหนักให้ดูอ่อนลง พร้อมกับให้ให้ร่มเงาภายนอกสำหรับสถานที่พักผ่อนกลางแจ้ง ส่วนหนึ่งของร่มไม้ใหญ่ยังทำหน้าที่เป็นหลังคาคลุมบ้านอีกชั้น ทำให้บ้านเย็นสบาย ผนังบ้านที่หุ้มด้วยไม้ทั้งภายในและภายนอก ให้ความรู้สึกต่างกันในช่วงกลางวันจะเป็นกันเอง อบอุ่น แต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แสงที่นุ่มนวลแบบ indiret light และไฟตกแต่งตามส่วนประกอบของบ้าน จะทำให้อาคารเปล่งประกายราวกับโคมไฟท่ามกลางสีเขียวชอุ่ม
ช่องเปิดไม่ได้สำคัญเฉพาะในโครงการรีสอร์ทหรือที่พักตากอากาศเท่านั้น ในบ้านเองเจ้าของบ้านก็ต้องทำงานร่วมกับสถาปนิกในการกำหนดช่องเปิด เพื่อให้บ้านได้รบวิวที่เราต้องการ ตรงไหนอยากเปิดบ้านเชื่อมต่อวิสัยทัศน์ภายนอก รับแสง รับลม หรือส่วนไหนที่ต้องการจะปิด เช่น มุมมองที่ตรงไปเห็นสิ่งไม่สวยงาม หรือเปิดออกไปแล้วมองเห็นเพื่อนบ้าน เป็นต้น ซึ่งจะตรงกับโจทย์การใช้งานมากกว่าการติดตั้งประตูหน้าต่างในตำแหน่งที่มักติดตั้งในบ้านทั่วๆ ไป
7 ข้อดีของบ้านสไตล์รีสอร์ท
1. มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น
ต้นไม่ใหญ่เป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีความร่มรื่น ผ่อนคลาย มีชีวิตชีวายามพักอาศัย
2. มีสวนธรรมชาติให้ความผ่อนคลาย
ธรรมชาติเป็นเหมือนทางลัดสร้างความผ่อนคลาย การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทจึงมีพื้นที่ธรรมชาติเป็นสัดส่วนสำคัญ โดยส่วนประกอบของส่วนอาจมีบ่อปลา น้ำตก โขดหิน ต้นไม้นานาพันธุ์ และเสียงจากธรรมชาติที่ผู้พักอาศัยได้สัมผัสเมื่อไร ก็รู้สึกถึงคำว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง
3. ทุกฟังชันในบ้านถูกออกแบบช่องเปิดให้เห็นธรรมชาติภายนอก
โดยช่องเปิดของแต่ละห้องนั้นจะถูกออกแบบให้อยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตอิงธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลายตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ
4. มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับทุกกิจกรรม
พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ที่ถูกจัดวางให้มีฟังก์ชันรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก และสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ในทุกช่วงเวลา ด้วยการออกแบบที่เน้นการใช้สอยพื้นที่อย่างคุ้มค่า และพื้นที่ส่วนกลางนี้จะเชื่อมโยงทุกพื้นที่ในบ้านทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง
5. พื้นที่ส่วนตัวมีช่องเปิดรับธรรมชาติ
เพื่อการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์พร้อมการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จึงมีการออกแบบให้ห้องนอนมีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ สามารถมองเห็นสวนธรรมชาติได้ ขณะเดียวกันบริเวณห้องน้ำก็ถูกออกแบบให้มีส่วนบังตา และมีพื้นที่สีเขียวพร้อมช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีและไม่อับชื้นบ้านจัดสรร
6. มีการออกแบบพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้ดี
บ้านสไตล์รีสอร์ทจะถูกออกแบบพื้นที่ให้มีความร่มรื่น น่าพักอาศัยเพราะแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีการออกแบบให้ได้รับแสง และลมธรรมชาติ ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้ทุกพื้นที่มีอากาศถ่ายเทหมุนเวียนตลอดเวลา และไม่สะสมความชื้น
7. มีธรรมชาติพร้อมต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าบ้าน
บ้านสไตลล์รีสอร์ทจะมีการออกแบบพื้นที่ให้เข้าถึงธรรมชาติตั้งแต่บริเวณทางเข้าบ้านถึงตัวบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถสัมผัสความสดชื่นทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน และรู้สึกผ่อนคลายต่างจากพื้นที่นอกรั้วบ้าน
เมื่อบ้านคือพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง คงจะดีไม่น้อยหากในทุกวันที่อยู่อาศัยและทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติได้ทันที พร้อมใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างลงตัวmore info