บ้านสวนรีสอร์ท บ้านสไตล์รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งในแบบบ้าน ในฝันที่หลายคนอยากได้เป็นเจ้าของ ด้วยสไตล์การออกแบบ ที่เน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติ รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ จึงทำให้บ้านสไตล์รีสอร์ท มีบรรยากาศร่มรื่นเหมือน ได้พักผ่อนในโรงแรมสวย ๆ รู้สึกผ่อนคลายได้ ทุกวันที่พักอาศัย
เอกลักษณ์ของบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ทำให้ใครหลายคนหลงใหล ไปกับเสน่ห์จนอยากมีไว้สักหลัง คือบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ทั้งภายในและภายนอกบริเวณรอบบ้าน ให้ความรู้สึกเสมือนไป พักผ่อนที่โรงแรม หรือบ้านพักตากอากาศ ในเมืองท่องเที่ยว
บ้านสวนรีสอร์ท
บ้านสไตล์รีสอร์ทเหมาะกับใคร แม้ว่าบ้านสไตล์รีสอร์ท จะเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคน จะสามารถสร้าง บ้านสไตล์รีสอร์ทได้เสมอไป เนื่องจากมีต้นทุนค่อนข้างสูง และใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก เพราะมีจุดเด่นเรื่องพื้นที่สีเขียว เพื่อสร้างบรรยากาศแห่ง การพักผ่อนและให้ร่มเงาบดบังแสงแดดในบริเวณบ้าน หากใครที่มีพื้นที่จำกัด คงไม่เหมาะกับการสร้าง บ้านสไตล์นี้เท่าไหร่
นอกจากเรื่องเงินทุน และขนาดพื้นที่แล้ว บ้านสไตล์รีสอร์ท จะเหมาะกับ ทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น ภูเขา ชายทะเล ริมแม่น้ำ ทุ่งนา หรือในสวนกว้าง ๆ มากกว่า ด้วยจุดเด่นที่เน้น เรื่องวิวธรรมชาติเพื่อ ให้มีบรรยากาศแห่งการพักผ่อน ได้อย่างเต็มที่ หากต้องการสร้าง บ้านสไตล์รีสอร์ทในเมืองจึงเหมาะกับบ้านที่ มีขนาดพื้นที่กว้าง ๆ เพื่อให้มีพื้นที่แห่ง การผ่อนคลายสายตา
แบบบ้านโมเดิร์นสไตล์รีสอร์ท ความเท่ต้องเข้ากันได้กับวิถีธรรมชาติ

ฝากหัวใจไว้ในบ้านกลางธรรมชาติ หากให้จินตนาการถึงบ้านในฝัน เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยต้องมีฝันตรงกัน ที่จะได้เห็นตัวเองอยู่ ในบ้านสวนหรือบ้านที่ซ่อนซุกตัว อยู่กลางธรรมชาติ มีลำธารเล็กๆ หน้าบ้าน มองไหนทางไหน ก็มีแต่ความสดชื่นเขียวขจี ทำให้บ้านกลายเป็น รีสอร์ท ที่จะพาสมาชิกในบ้านหลีกหนีจากความวุ่นวาย ในชีวิตประจำวัน เข้าสู่โลกส่วนตัวใบใหม่ที่มีแต่ความสงบ เนื้อหานี้เรามีตัวอย่างบ้าน ที่เห็นแล้วต้องหลงรักกับบรรยากาศแสนสบาย ที่ทำให้รู้สึกราวกับ เป็นสวรรค์บนดิน
บ้านสไตล์รีสอร์ท ความทันสมัยที่เข้ากันได้กับธรรมชาติ บ้านหลังพื้นที่ใช้สอย 312 ตารางเมตรนี้ ซ่อนตัวอย่างกลมกลืนอยู่ในระบบนิเวศน์ที่ต้นไม้ใบหญ้า แม่น้ำ อุดมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด อาคารหลังแรกที่ได้รับอิทธิพลจาก Parkitecture หรือ “สถาปัตยกรรมอุทยาน”
ที่จะมีห้องพักและสำนักงาน และเพิ่มเติมอาคารใหม่ในลักษณะของ “rustic architecture” หรือสถาปัตยกรรมป่าเขาในชนบท ที่ใช้ไม้ กรวด และหินที่มีอยู่ในพื้นถิ่นเป็นวัสดุหลัก โทนสีที่ใช้มีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม รูปแบบโครงสร้างอาคาร และลักษณะตอบโจทย์ทางภูมิประเทศและภูมิอากาศ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ แต่ละพื้นที่ได้อย่างดี แสดงให้เห็นถึง สุนทรียภาพของที่พัก แนวคิดทันสมัยในชนบท
การสร้างบ้านในพื้นที่ตามธรรมชาติ สถาปนิกเน้นความอ่อนน้อมกลมกลืน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องการเปิดมุมมอง มุ่งเน้นนำความ เป็นธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน จึงเลือกทำบ้าน เป็นกล่องสี่เหลี่ยมวัสดุผนังเป็นไม้ สลับแผ่นเหล็กสีสนิม ดูเข้ากันได้กับสีของกอหญ้า และต้นไม้สีเหลืองอมส้มที่ล้อมรอบ และกระจกใสเหมือนกล่องแก้ว เพิ่มความรู้สึกว่าเป็นสถานที่ พักผ่อนสำหรับผู้เป็นเจ้าของ

สถาปนิก Eric Logan ออกแบบโครงสร้างอาคารใหม่ ให้มีความลื่นไหลต่อเนื่อง กับอาคารเดิมเป็นรูปตัว L ช่วงที่สั้น ๆ จะเป็นที่จอดรถ ในขณะที่ส่วนที่ยาวกว่านั้น ครอบคลุมทั้งห้องนอน พื้นที่นั่งเล่น ห้องครัว พื้นที่รับประทานอาหาร มีทางเดินปูด้วยแผ่นคอนกรีตต้อนรับการมาเยือน และกระถางปลูกต้นไม้ ทำจากแผ่นเหล็กสีดำ (ซึ่งต่อมาจะค่อย ๆ กลายเป็นสีสนิม)
ผนังกระจกเปิดวิสัยทัศน์ เชื่อมวิวเข้าสู่บ้าน การตกแต่งภายในบ้าน มีช่องเปิด ขนาดใหญ่ทำจากกระจก ทั้งสองด้านทำให้บ้านมองทะลุออกไปได้ พื้นบ้านและเพดานปูด้วยไม้โอ๊ค ผนังอิฐสีขาวที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นทั้งบ้าน ความโปร่งใส และเบาของผนังทำให้พื้นที่ ใช้ชีวิตตรงกลางดูเหมือนลอยอยู่ระหว่างผนัง บ้าน 2 ชั้น
ภายในบ้านจัดแบบ open plan เน้นความโปร่งโล่ง วางสัดสวนพื้นที่ใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างครัว มุมทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ให้มีความต่อเนื่องไหลลื่น โดยพยายามลดการ ใช้ผนังทึบให้มากที่สุด เพื่อให้สมาชิกในบ้านเข้าถึงได้ง่าย สามารถใช้งาน และใช้ชีวิตไปได้พร้อม ๆ กัน ในจุดเดียว
ไม่ว่าสมาชิกในบ้าน จะกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว หรือกำลังพักเอนตัวสบายๆ อยู่ในโซฟาตัวโปรดที่ จัดวางถัดออกไป ก็ได้รับจากธรรมชาติผ่านผนังกระจกได้เท่าๆ กัน
จากห้องนั่งเล่นเมื่อเปิดประตูออกมา จะเป็นชานนั่งเล่นเอาท์ดอร์ ที่ได้รับพลังงานความสดชื่น แสนผ่อนคลายครบทั้ง 5 สัมผัส ในมุมนี้เราจะได้ยินเสียงและเห็นความเป็นไปของสัตว์ ป่าขนาดเล็กที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็นฝูงกวางเอลก์ นกอินทรี และหมาป่าไคโยตี รอบๆ มองเห็นสายน้ำที่สะท้อนแสงระยิบ
ฟาซาดแผ่นโลหะฉลุ ปกป้องตัวบ้านพร้อมสร้างแสงเงา ก่อนเข้าถึงตัวบ้าน เราจะเห็นบางอย่างที่คลุมเป็นเปลือกรอบ ๆ ตัวบ้าน ซึ่งก็คือฟาซาดม่านเหล็ก ที่ใช้แผ่นเหล็กมา เจาะจนเต็มผืน แผ่นโลหะเหล่านี้มีต้นแบบมาจาก ภาพถ่ายของดงไม้โดยรอบ แต่ลดทอนให้เหลือ รูปร่างเรียบง่ายแบบมินิมัลลิสต์ มองดูไกล ๆ คล้ายใบไม้สีน้ำตาลทองเต็ม ผนังที่ผสานเข้ากับภูมิทัศน์ ทำให้บ้านกลาย เป็นงานศิลปะชิ้นใหญ่
ในบ้านสมัยใหม่ที่นิยม ใช้กระจกเป็นองค์ประกอบ หนึ่งของบ้าน อาจจะทำให้ภายใน ตัวบ้านได้รับแสงสว่างได้ มากก็จริง ซึ่งอาจจะเหมาะกับบ้านในเขตหนาว แต่ถ้าเป็นบ้านเรา คงต้องหามาตรการลดร้อนเล่น ใช้กระจกที่สะท้อนแสงได้ ติดฟิล์มกัน UV หรือมีฟาซาดเป็นเหมือน ผนังชั้นนอกอีก 1 ชั้น เพื่อทำหน้าที่ปกป้องบ้าน จากแสงที่ส่องผ่านกระจก เพิ่มความเป็นส่วนตัว จากสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา และยังปรับมุมมองของ บ้านให้แสงเงาที่น่าสนใจภายในบ้านได้ด้วย

แต่ละพื้นที่ได้รับการออกแบบให้เป็น ประสบการณ์ธรรมชาติที่เป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องน้ำ หรือห้องนอน ที่ถูกกำหนดมุมมองให้เห็นความงดงามของทิวทัศน์ในแง่มุมที่ แตกต่างกันออกไป ทำให้การใช้ชีวิตในทุกพื้นที่ ของบ้านเต็มไปด้วยความสุนทรี ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูไหน ๆ ในช่วงเวลากลางคืนแสง ที่สาดทะลุกระจกออกมา ทำให้ตัวบ้านกลายเป็นโคมไฟ ขนาดใหญ่ส่องสว่างอยู่ท่ามกลางต้นไม้ ทำให้ที่นี่สถานที่ พักผ่อนที่เหมาะจะให้เป็น ของรางวัลสำหรับชีวิต
7 ข้อดีของบ้านสไตล์รีสอร์ท

1.มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น
ต้นไม่ใหญ่เป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีความร่มรื่น ผ่อนคลาย มีชีวิตชีวายามพักอาศัย
2.มีสวนธรรมชาติให้ความผ่อนคลาย
ธรรมชาติเป็นเหมือนทางลัดสร้างความผ่อนคลาย การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทจึงมีพื้นที่ธรรมชาติเป็นสัดส่วนสำคัญ โดยส่วนประกอบของส่วนอาจมีบ่อปลา น้ำตก โขดหิน ต้นไม้นานาพันธุ์ และเสียงจากธรรมชาติที่ผู้พักอาศัยได้สัมผัสเมื่อไร ก็รู้สึกถึงคำว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง
3.ทุกฟังชันในบ้านถูกออกแบบช่องเปิดให้เห็นธรรมชาติภายนอก
โดยช่องเปิดของแต่ละห้องนั้นจะถูกออกแบบให้อยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตอิงธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลายตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ
4.มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับทุกกิจกรรม
พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ที่ถูกจัดวางให้มีฟังก์ชัน รองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก และสามารถทำกิจกรรมร่วมกัน ได้ในทุกช่วงเวลา ด้วยการออกแบบที่เน้นการใช้สอยพื้นที่อย่างคุ้มค่า และพื้นที่ส่วนกลางนี้จะเชื่อมโยง ทุกพื้นที่ในบ้านทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง
5.พื้นที่ส่วนตัวมีช่องเปิดรับธรรมชาติ
เพื่อการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์พร้อม การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จึงมีการออกแบบให้ห้องนอนมีช่อง เปิดรับแสงธรรมชาติ สามารถมองเห็นสวนธรรมชาติได้ ขณะเดียวกันบริเวณห้องน้ำก็ถูกออกแบบ ให้มีส่วนบังตา และมีพื้นที่สีเขียวพร้อมช่อง เปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีและไม่อับชื้น
6.มีการออกแบบพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้ดี
บ้านสไตล์รีสอร์ทจะถูกออกแบบพื้นที่ ให้มีความร่มรื่น น่าพักอาศัยเพราะแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีการออกแบบ ให้ได้รับแสง และลมธรรมชาติ ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้ทุกพื้นที่ มีอากาศถ่ายเทหมุนเวียน ตลอดเวลา และไม่สะสมความชื้น
7.มีธรรมชาติพร้อมต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าบ้าน
บ้านสไตลล์รีสอร์ทจะมีการออกแบบพื้นที่ ให้เข้าถึงธรรมชาติตั้งแต่บริเวณ ทางเข้าบ้านถึงตัวบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถ สัมผัสความสดชื่นทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน และรู้สึกผ่อนคลายต่าง จากพื้นที่นอกรั้วบ้าน